น้ำหอมแนว Tasty Orange Blossom กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

LA VIE EST BELLE (ลา วี เอ เบลล์) วลีภาษาฝรั่งเศสที่มีความหมายว่า ชีวิตนั้นช่างงดงาม คือปรัชญาแห่งความสุข หรือปฏิญญาสากลว่าด้วยความงดงามแห่งชีวิต

          เมื่อ 2 ปีก่อน ลังโคมขอให้พวกเขาถ่ายทอดแนวคิดสรรค์สร้างผ่านกลิ่นหอมที่แสดงความสุขที่ซึ่งแผ่กระจายจากคนๆ หนึ่งไปสู่ผู้อื่นอย่างไม่อาจหยุดยั้งดุจดังแสงวาบที่สะท้อนไปไม่มีที่สิ้นสุดมีที่สิ้นสุด โดยทั้งคู่ใช้เวลา 2 ปีในการรังสรรค์ La vie est belle L’Éclat (Eau de Parfum) กลิ่นใหม่ที่แสดงให้เห็นว่ายิ่งแบ่งปันความสุขออกไปในวงกว้างมากขึ้นเท่าไร ความสุขก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น น้ำหอมนี้เผยกลิ่นอันสดชื่นบนกลิ่นฐานที่นุ่มนวลและอ่อนโยน ผสานด้วยความสดใสหอมชื่นใจของดอกส้มอันเป็นดั่งหัวใจของเรื่องราวสุดพิเศษ ซึ่งชวนให้หวนรำลึกถึงน้ำหอม La vie est belle กลิ่นดั้งเดิมและบอกเล่าเรื่องราวใหม่ไปพร้อมกัน

          La vie est belle L’Éclat Eau de Parfum สร้างความประหลาดใจด้วยความสดชื่นของกลิ่นดอกไม้หอมชื่นใจของพืชตระกูลส้ม คือความหอมหวานชวนหลงใหล ชวนลุ่มหลง โครงสร้างกลิ่นที่อบอุ่นเกินต้านทานเผยแง่มุมอันหลากหลายของดอกส้ม พร้อมปลุกทุกสัมผัสอย่างอ่อนโยน ด้วยความสดชื่นอันมหัศจรรย์ ดังที่ อานน์ ฟลิโป (Anne Flipo) หนึ่งในผู้รังสรรค์น้ำหอมนี้ได้กล่าวไว้ “ดอกส้มเป็นหนึ่งในส่วนผสมโปรดของฉัน เพราะมีแง่มุมหลากหลายไม่รู้จบ” อานน์จึงมองว่าดอกส้มเป็นตัวเลือกที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ La vie est belle L’Éclat โดยได้ค้นหาการผสมผสานแง่มุมที่แจ่มกระจ่าง สดชื่น เปล่งประกาย และเย้ายวนของดอกส้ม เพื่อเผยความเป็นผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดีของ La vie est belle ออกมา
[BANNER_CONTENT]
สำหรับการรังสรรค์กลิ่นฐาน โดมินีค โรปียง ได้นำความหอมหวานชวนลิ้มลองที่ยากจะเลียนแบบได้ของ La vie est belle มาตีความใหม่ โดยใช้ฝักวานิลลาสกัดด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 vanilla pod) ของ LMR แอมบร็อกซาน (ambroxan) และไม้จันทน์หอม (sandalwood) “ผมทบทวนกลิ่นหอมชวนลุ่มหลงอันเป็นสัญลักษณ์ของ La vie est belle แล้วคิดค้นแง่มุมใหม่ด้วยการผสานกลิ่นหอมละมุนดุจครีมเข้ากับกลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เจิดจ้า ดุจแสงแดด” เขาอธิบาย
“ผมแทนที่ความหอมหวานชวนลิ้มลองดั้งเดิม ด้วยกลิ่นหอมนุ่มนวลทว่าทรงอานุภาพของฝัก
วานิลลาสกัดด้วยคาร์บอนไดออกไซด์จาก LMR โอบล้อมด้วยกลิ่นหอมสบายใจของไม้จันทน์หอม ซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างความหอมละมุนของ La vie est belle ”

เพื่อสื่อถึงแนวคิดว่าด้วยความสุขที่แผ่กระจายออกไปและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กาธรีน ครูนาส์ (Catherine Krunas) เกิดความคิดที่จะปรับรูปทรงของขวดน้ำหอมดั้งเดิมที่เป็น “รอยยิ้มคริสตัล” โดยเสริมด้วยเหลี่ยมมุมของคริสตัลจำนวนมหาศาล เพื่อให้เกิดความเปล่งประกายระยิบระยับ ราวกับการแผ่กระจายของความสุขออกไปอย่างไม่จบสิ้น โดยดีไซน์ใหม่ของ La vie est belle เป็นเหมือนกับการทำให้ “รอยยิ้มคริสตัล” นั้นทรงพลังมากยิ่งขึ้น

ขวดน้ำหอมใหม่นี้ได้ถูกสรรค์สร้างขึ้นโดย Maison Pochet บริษัทผู้ผลิตเครื่องแก้วชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงมานานนับศตวรรษ ซึ่งรับหน้าที่ผลิตขวดแก้วดั้งเดิมของ La vie est belle โดยการผลิตนั้นต้องอาศัยความชำนาญ และเทคนิคขั้นสูงประกอบกับความพยายามนับครั้งไม่ถ้วน กว่าจะสามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานให้ออกมามีรูปทรงที่ทันสมัยและเส้นสายที่เกลี้ยงเกลาตามภาพร่างของดีไซเนอร์ หมุดคริสตัลจำนวนทั้ง 221 เม็ดที่ประดับบนขวด แต่ละเม็ดมีหน้าตัด 5 ด้าน ทุกเหลี่ยมมุมเจียระไนด้วยมือ หลังหล่อขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์ ดังนั้น ทุกๆ เม็ดจึงจับแสงดูแพรวพราว และด้วยเหตุนี้ รอยยิ้มคริสตัลจึงเปลี่ยนโฉมไปเป็นเสมือนกล้องสลับลายอันเจิดจ้า การสะท้อนแสงเพิ่มเป็นทวีคูณ ทุกลำแสงสะท้อนกลับไปกลับมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด